พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงศึกษาวิธีการทรงงานจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยการตามเสด็จทั้งสองพระองค์ ไปยังถิ่นทุรกันดารในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ด้วยทรงต้องการเข้าพระราชหฤทัยถึงความทุกข์ยากของราษฎรในแต่ละพื้นที่
การทรงงานด้านการเกษตร รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ เป็นอีกหนึ่งพระราชกรณียกิจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญเนื่องจากราษฎรชาวไทยส่วนใหญ่ ยึดการทำเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักในการหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว โดยได้เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ที่มณฑลพิธี ท้องสนามหลวง และที่แปลงนาสาธิต สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต อย่างต่อเนื่อง เพื่อบำรุงขวัญกำลังใจเกษตรกรไทยทั่วประเทศ
ด้วยทรงมีพระราชปณิธาณที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อประโยชน์สุขของราษฎรชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการและหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ โครงการหลวง, มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, มูลนิธิพระดาบส และโครงการพัฒนาแหล่งน้ำต่าง ๆ นอกจากนี้ ได้พระราชทานโครงการเพื่อช่วยเหลือราษฎรทุกหมู่เหล่าอย่างเท่าเทียม อาทิ “โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ต้านภัยโควิด-19” เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนรายได้ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดำเนินการในพื้นที่โครงการฟาร์มตัวอย่าง 30 แห่งทั่วประเทศ และโครงการพระราชทาน “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรแก่ผู้ต้องขังเด็ดขาดที่ใกล้พ้นโทษ ด้วยทรงห่วงใยความเป็นอยู่และการดำเนินชีวิตหลังพ้นโทษ และเป็นแนวทางให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งตนเองได้ มองเห็นโอกาสในการประกอบสัมมาชีพภายหลังพ้นโทษ และเกิดความหวังในการดำเนินชีวิตใหม่ในสังคม
ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลและพระราชหฤทัยแน่วแน่ที่จะทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎรทุกหมู่เหล่าอย่างเท่าเทียม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงทุ่มเทพระวรกายทรงงานด้านการเกษตร การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ พร้อมพระราชทานคำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
94 total views