เวลา 18.17 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำนายทหารชั้นนายพล และนายตำรวจชั้นนายพลรวม 2,750 นาย ที่ได้รับพระราชทานยศ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณ โอกาสนี้ พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
ในการนี้ พระราชทานพระบรมราโชวาท ใจความสำคัญว่า “ทหารและตำรวจนั้น มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัย และความผาสุกของบ้านเมืองและประชาชน หน้าที่ของทหารและตำรวจจึงมีความสำคัญ ต้องปฏิบัติด้วยความทุ่มเทเสียสละ ด้วยทัศนคติที่ดี ด้วยความซื่อตรงจริงใจ และความรับผิดชอบอย่างสูง ท่านทั้งหลายได้รับยศสูงขึ้น ก็ยิ่งต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จผลสมบูรณ์ เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน ถ้าทุกคนตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบดังกล่าว แล้วตั้งใจปฏิบัติให้ดี ให้ถูกต้องเป็นธรรม แต่ละคนก็จะได้รับความเชื่อถือยกย่อง สมกับที่เป็นผู้ใหญ่ ผู้ที่ได้ให้คำสัตย์ปฏิญาณไว้ แล้วปฏิบัติตามได้จริง”
เวลา 18.40 น. เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ภิรมย์ กมลรัตนกุล นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษต้นแบบ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องตรวจวิเคราะห์ด้านอนูชีวโมเลกุล จำนวน 1 คัน
โอกาสนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษต้นแบบ และรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเพิ่มเติม จำนวน 4 คัน สำหรับใช้ประโยชน์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นับแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ได้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนจำนวนมาก ทั้งเรื่องสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาด และการดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคในประเทศไทย โดยได้พระราชทานพระบรมราโชบายในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมพระราชทานเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย และรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ เพื่อปฏิบัติงานเชิงรุกภาคสนาม ในการตรวจเชื้อโรคโควิด-19 แก่ประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย
สำหรับรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นรถต้นแบบ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดสร้างเพิ่มเติม รวมเป็น 5 คัน นำไปใช้งานควบคู่กับรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยที่ได้พระราชทานไปแล้ว 20 คัน ได้อย่างเหมาะสม สามารถเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์ผลได้ในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง ทั้งยังสามารถเข้าถึงพื้นที่เป้าหมายได้ทันท่วงที เพื่อตรวจค้นหาเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยง เป็นการจำกัดวงการแพร่ระบาดของโรคให้แคบลง ส่งผลดีต่อการควบคุมโรคโดยรวม
รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ เป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ มีพื้นที่ใช้สอย 16.8 ตารางเมตร ประกอบด้วย 3 ห้องหลัก ได้แก่ ห้องสกัดสารพันธุกรรม ห้องเตรียมน้ำยาวิเคราะห์ และห้องวิเคราะห์ผลด้วยเทคนิค PCR มีห้องบัฟเฟอร์เพื่อควบคุมและป้องกันการรั่วไหลของเชื้อโรค พร้อมเครื่องมือที่ติดตั้งภายในรถ ได้แก่ ตู้ปลอดเชื้อ ตู้ปฏิบัติงานพีซีอาร์ (PCR cabinet) เครื่องสกัดสารพันธุกรรมอัตโนมัติ เครื่องเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมดีเอ็นเอด้วยปฏิกิริยาโพลีเมอเรส วิเคราะห์ได้ 70 ตัวอย่างต่อ 1 รอบต่อเครื่อง ตู้แช่แข็ง -20 องศาเซลเซียส ตู้ทำความเย็น 4 องศาเซลเซียส ช่องส่งตัวอย่าง เครื่องเขย่าผสมสาร เครื่องปั่นเหวี่ยงตกตะกอน ไมโครปิเปต (micropipette) ระบบยูวีฆ่าเชื้อ ระบบสื่อสารสองทาง ระบบกล้องวงจรปิด และเครื่องล้างมือแอลกอฮอล์อัตโนมัติ ด้วยสมรรถนะที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ทำให้สามารถทราบผลการตรวจหาเชื้อได้ใน 3 ชั่วโมง โดยไม่ต้องส่งผลไปตรวจที่ศูนย์การแพทย์ หรือห้องปฏิบัติการโรงพยาบาล มีความปลอดภัยต่อบุคลากรทางการแพทย์ สามารถตรวจได้ประมาณ 800-1,000 ตัวอย่างต่อวัน จึงช่วยค้นหาผู้ติดเชื้อได้รวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันควบคุมโรค ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ได้แพร่กระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย
194 total views